Author: admin

21 May

วิธีการถ่ายภาพหน้าจอจากคอมพิวเตอร์

การถ่ายภาพสมัยนี้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี วิธีการเยอะแยะมากมายยิ่งขึ้น อีกหนึ่งวิธีการที่ง่ายแต่หลายคนคาดไม่ถึงก็คือ การถ่ายภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรามักจะใช้เพื่อเซฟภาพสวยๆ จากสิ่งที่เราเห็น เพื่อนำภาพไปใช้งานต่ออีกครั้งหนึ่ง หากเราต้องการจะเซฟหน้าจอมีวิธีการไหนบ้าง เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มาบอกให้ไปลองทำกัน

กดปุ่ม print screen

วิธีการแรกถือว่าง่ายสุดของการถ่ายภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนอื่นเปิดหน้าจอภาพที่เราต้องการจะเซฟไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาพคน ภาพวิว ภาพในเกม หรือภาพอะไรก็ตาม จากนั้นมองหาแป้นพิมพ์ของเรา มองหาปุ่มที่เขียนว่า print screen หรือ หากแป้นพิมพ์บางอันอาจจะเขียนแบบย่อว่า prt scr จากนั้นก็กด 1 ครั้ง ย้ำว่า กดครั้งเดียวพอ เครื่องจะทำการเซฟหน้าจอภาพที่แสดงนั้นเองโดยอัตโนมัติ ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการเอาไปใช้ เราสามารถเอาไปใช้ได้เลย อย่างจะเอาไปวางในเอกสารไฟล์ word เราก็กดคลิกขวาในพื้นที่วาง หากคำว่า วาง ก็จบ หรือ จะเอาไปวางในแชทไลน์ก็ได้เหมือนกันวิธีเดียวกัน กดปุ่มวาง แล้วภาพก็จะขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

ต้องการเป็นภาพไฟล์

การใช้วิธีดังกล่าว ข้อดีก็คือ เราสามารถส่งต่อ ใช้งานได้เลย แต่เราไม่สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพได้ (เผื่อบางคนจะเอาไปตัดต่ออีกครั้งหนึ่ง) เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร คำตอบก็ไม่ยาก เพียงแค่เรากดปุ่ม print screen เหมือนเดิม แต่ทีนี้เราต้องไปเปิดโปรแกรมจัดการรูปภาพ ใครไม่ถนัดก็จัดโปรแกรม paint ไป หรือ ใครเก่งแล้วก็เปิดโปรแกรม photoshop ขึ้นมา จากนั้นก็สร้างเลเยอร์วาง แล้วก็กดวางลงไป ภาพจะปรากฎขึ้นมาตามที่เซฟไว้ ทีนี้ก็เซฟงานได้เลยจะเอาไฟล์ใหญ่ขนาดไหนอย่างไร ก็ตามสะดวก

โปรแกรม snipping tool

แต่ถ้าหากวิธีแรกง่ายเกินไป หลายคนอาจจะคิดว่ามีวิธีอื่นหรือเปล่า คำตอบก็คือ เราขอแนะนำอีกวิธีหนึ่งด้วยการใช้โปรแกรมช่วย ชื่อว่า snipping tool ตัวนี้จะมีในวินโดส์ 10 หากเป็นวินโดส์ก่อนหน้านั้นอาจจะไม่มี พอเราเรียกโปรแกรมตัวนี้ขึ้นมา จะมีหน้าต่างขนาดเล็กขึ้นมา จากนั้นจะมีเมนูให้เราเลือก ข้อดีก็คือ หากเราต้องการจับภาพส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าจอ ก็สามารถใช้กรรไกรตัดได้ตามต้องการ หรือ ต้องการตัดแบบอื่นก็ทำได้เลย พอเราตัดเสร็จเค้าจะมีหน้าจอขึ้นมาให้เซฟไฟล์ได้เลย อยากได้ไฟล์แบบไหนก็เลือกเอาตามความต้องการ

สองวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีการที่ง่ายมากสำหรับคนที่ต้องการตัดภาพหน้าจอเอาไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ ลองไปเล่นกันดูจะได้ใช้เป็น คล่องแคล่ว

3 Aug

เคล็ดไม่ลับ ทำไงให้แฟนถ่ายรูปมาสวย

หนึ่งในปัญหาโลกแตกของการอยู่ด้วยกันระหว่างคู่รักนั่นคือ การถ่ายรูประหว่างกัน คนหนึ่งถ่ายดีอีกคนถ่ายไม่ดี มีให้ถกเถียงกันเป็นประจำ แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ไม่ต้องกังวลไป เรามีเคล็ดไม่ลับแนะนำทำไงให้แฟนถ่ายรูปมาสวยลองไปทำกันดูรับรองว่าปัญหานี้จะหมดไป (หรือเปล่า)

ใช้อุปกรณ์ช่วย ถ้าไม่อยากพลาด

ปัญหาโลกแตกอย่างไร หากให้แฟนถ่ายรูปแล้วออกมาไม่สวย นั่นคือเป็นเพราะว่าภาพนั้นออกมาสั่นไหว เบลอ ดูแล้วไม่สวย แม้ว่าจะปรับด้วยแอพก็ตาม ปัญหานี้อาจจะเกิดจากคนถ่ายรูปมือไม่นิ่งพอ วิธีแก้ก็ไม่อยากทริคคือหาอุปกรณ์ช่วยเหลือในการถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นขาตั้งกล้อง หรือ ไม้เซลฟี่ ต้องมีให้เค้า รับรองว่าถ้ามีขาตั้งกล้องแล้วจะทำให้ภาพออกมาชัดเจน คม ไม่สั่นไหวจนต้องส่ายหัวอย่างแน่นอน

แสงและมุม จัดให้ดีก่อนปล่อย

ทำไมถ่ายออกมาแล้วดำ ประโยคนี้มักจะได้ยินประจำ หรือไม่ก็ เธอถ่ายแล้วดูอ้วนอ่ะ ไม่เอา เอาใหม่ ฯลฯ ประโยคเหล่านี้ทำเอานักถ่ายมือใหม่(แฟนเรา)ไม่อยากถ่ายรูปอีก หากไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ทริคก็คือเราควรจัดแสงและมุมให้ดี ก่อนจะปล่อยให้แฟนของเราเข้ามาถ่ายภาพก็จะช่วยให้ได้ภาพตามต้องการได้

ใช้ตารางช่วยจัดองค์ประกอบภาพ

ประเด็นสำคัญที่ทำให้แฟนของเราถ่ายภาพออกมาไม่สวย นั่นคือ การจัดองค์ประกอบของภาพไม่ดีพอ บางทีก็เบ้ซ้าย เบ้ขวา หนักไปทางใดทางหนึ่ง ไม่สมดุลกันแบบไม่สวยเลย ทริคแนะนำเราควรตั้งค่าหน้าจออุปกรณ์ถ่ายภาพใหม่ไม่ว่าจะเป็นกล้อง หรือ กล้องโทรศัพท์ ให้อยู่ในโหมดตารางจะช่วยให้การจัดองค์ประกอบภาพทำได้ดีขึ้น เชื่อว่าการจัดให้สมดุลย์พอเห็นตารางจะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม

A.I. beauty ต้องใช้ให้เป็น

ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะหรือ A.I. เข้ามาช่วยจะทำให้การถ่ายภาพออกมาดีขึ้น แน่นอนว่าเราต้องใช้ให้เป็นไม่ว่าจะเป็นแอพ หรือ ตัวโปรแกรมติดมาพร้อมกับกล้อง อันนี้ต้องลองใช้ดูเดี๋ยวนี้มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ค่ายไหนก็ตาม เชื่อว่าหากเราใช้เป็นแฟนถ่ายรูปให้เราออกมาสวยแน่นอน

ด้วยเคล็ดไม่ลับเหล่านี้ เชื่อเลยว่า แฟนต้องถ่ายรูปออกมาสวยระดับเน็ตไอดอลแน่นอน อีกเรื่องไม่อยากให้มองข้ามไปนั่นคือกำลังใจ อย่าลืมว่าการถ่ายภาพนั้นเป็นทักษะอย่างหนึ่งต้องผ่านการคิดค้น ฝึกฝนอยู่เป็นเวลาพอสมควรถึงจะทำออกมาดี หากเราช่วยกันให้กำลังใจเชื่อว่าคนข้างๆ เราจะถ่ายรูปออกมาสวยอย่างแน่นอน

1 Aug

ถ่ายภาพมือถือยังไงให้สวยเลิศไม่เป็นที่สองรองใคร

การถ่ายภาพสมัยนี้บอกเลยว่าไม่ยากแล้ว เนื่องจากการพัฒนาของกล้องเทคโนโลยีแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องจากโทรศัพท์มือถือดูจะเป็นของใกล้ตัวเรามากที่สุดแล้วตอนนี้ เนื่องจากกดแล้วถ่ายง่าย กดง่าย ไม่กี่แชะ แต่ถ้าเราอยากจะถ่ายภาพจากกล้องมือถือให้ได้ภาพเป๊ะอย่างมือโปรเข้าถ่ายกัน เราจะทำอย่างไรดี เวลาเอาภาพออกโลกโซเชียลจะได้เรียกยอดไลค์ ยอดแชร์กันหน่อย ถ้าใครกำลังคิดอย่างนี้มาทางนี้เลย เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังว่าเค้ามีทริคอย่างไรกันบ้าง

ภาพมุมเสย มุมเงย มุมช้อน

มุมกล้องจัดว่าเป็นตัวเลือกสำคัญในการถ่ายภาพมือถือเลย หากเราจะให้หยิบจุดแข็งของกล้องมือถือมาสักอย่าง ก็คงเป็นเรื่องของมุมกล้องนี่แหละเนื่องจากมือถือสมัยนี้มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ทำให้นักถ่ายภาพสามารถเลือกมุมกล้องได้หลากหลายกว่ากล้องที่น้ำหนักมากกว่า โดยเฉพาะมุมกล้องแบบมุมเงย มุมเสย มุมช้อน มุมกล้องเหล่านี่กล้องธรรมดาอาจจะทำได้ยาก แต่กล้องมือถือสบาย แถมมุมกล้องแบบนี้ก็จะทำให้เราได้ภาพอีกมิติหนึ่งด้วย ยิ่งใครชอบภาพกระโดดสูง ภาพมุมเงยจากกล้องมือถือเป็นคำตอบ

เรียบง่าย แต่ได้เยอะ

การถ่ายภาพจากมือถือจะให้ภาพสวยอย่างมือโปรนั้น เรื่องการเล่าเรื่องเป็นสิ่งสำคัญ จะสังเกตว่าการถ่ายภาพของเหล่ามือโปรนั้นหากไม่นับภาพถ่ายตามความต้องการของลูกค้าแล้ว ช่างภาพมือโปรเหล่านี้มักจะถ่ายภาพที่เรียบง่าย เหมือนไม่มีอะไรในภาพ มีวัตถุเพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่ได้เยอะ กล่าวคือ เค้าจะลำดับภาพแบบไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ภาพของเค้ากลับเล่าเรื่องราวในตัวเองได้ดีมาก ดั่งคำว่า ภาพหนึ่งภาพแทนความหมายได้พันคำนั่นเอง หากเราอยากจะเป็นมือโปรก็ต้องเรียนรู้การถ่ายภาพแบบนี้เอาไว้ด้วย

ลองโฟกัสแบบสุดๆ ดู

กล้องมือถือสมัยนี้นอกจากพัฒนาเรื่อง A.I. ผู้ช่วยในการถ่ายภาพแล้ว การขยายภาพ หรือ การซูมภาพพวกเค้าก็พัฒนาได้เหมือนกันหลายแบรนด์กำลังพัฒนาให้กล้องมือถือนั้นสามารถซูมเข้าใกล้วัตถุได้แบบสุดๆ เลย เราสามารถนำเรื่องนี้มาถ่ายภาพให้เป๊ะเหมือนกับมือโปรได้ เพียงแค่เราเข้าไปใกล้ๆ วัตถุใกล้ตัวอย่างเช่น ใบไม้ แมว สุนัข ของเล่น รถยนต์ จากนั้นก็กดซูมเข้าไปแบบสุดๆ เลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพมุมมองใหม่ที่ให้ความละเอียด อารมณ์ภาพไม่แพ้มือโปรเข้าทำกันเลย ไม่เชื่อลองทำดู อยากให้จำไว้ว่าการถ่ายภาพจากกล้องมือถือให้สวยเหมือนมือโปรนั้นทำได้แน่นอน แต่เราต้องหมั่นฝึกฝนและหามุมมองใหม่ๆ เสมอ เชื่อมั่นตัวเองเข้าไว้นักถ่ายภาพทั้งหลาย

11 Apr

เทคนิคในการถ่ายภาพบุคคลให้ออกมาดูสวยเท่

ช่างภาพทุกคนล้วนต้องเคยถ่ายงานสไตล์ Portrait กันมาบ้างอยู่แล้ว ซึ่งเป็นแนวที่ได้รับความนิยมอีกแนวหนึ่ง เนื่องจาก สามารถใช้ตัวแบบเป็นคนใกล้ตัวได้ และในวันนี้เรามีเทคนิคในการถ่ายภาพบุคคล มาบอกบอก เพื่อทำให้การถ่าย Portrait ของคุณมีความสวยงามโดดเด่นรวมทั้งเป็นมืออาชีพมากขึ้น

โฟกัส ณ ดวงตา

แววตาถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของการถ่ายภาพแบบ Portrait โดยแววตาต้องคมรวมทั้งต้องถ่ายทอดความรู้สึกที่ตัวแบบกำลังคิดอยู่ออกมาให้ได้ เพราะฉะนั้นในการถ่ายจำเป็นจะต้องวัดแสงก่อน ถ้าตัวแบบกลางภาพก็ให้ใช้โหมดวัดแสงเฉลี่ยหนักกลาง คือ ให้กดชัตเตอร์ลงครึ่งนึงทั้งนี้เพื่อให้เกิดการโฟกัสและวัดแสง เมื่อวัดแสงเสร็จค่อยล็อค AE ไว้ก่อน ต่อมาให้ถอยไปจัดองค์ประกอบภาพแล้วค่อยถ่าย ในส่วนของการโฟกัส ก็ให้เลือกจุดโฟกัสไปที่ตา

ความลึกของภาพ

การถ่ายภาพ Portrait ให้มีความสวยงาม อีกเทคนิคหนึ่ง คือภาพต้องฉากหน้าชัด ฉากหลังเบลอ ข้อนี้เป็นเคล็ดลับแบบง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวแบบมีความโดดเด่นขึ้นมา รวมทั้งช่วยละลายฉากหลังที่ไม่จำเป็นออก

การถ่ายฉากหน้าชัด ฉากหลังเบลอ ให้เกิดความสวยงามนั้น ให้ตั้งค่ารูรับแสง Aperture Priority โดยเลือก f น้อยๆ และรูรับแสงที่มีความกว้างอย่าง f1.4 ภาพจะมีความชัดตื้นมากกว่า f4

องค์ประกอบแสง

การถ่าย Portrait จะสวยที่สุด จะมาจากแสงธรรมชาติ หลักการข้อนี้คือ คุณต้องรู้ว่าตอนไหนควรถ่ายหรือตอนไหนไม่ควรถ่าย พยายามหลีกเลี่ยงการถ่ายในช่วงเวลากลางวันซึ่งมีแดดจัด เนื่องจากจะทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ขึ้นบนใบหน้า ส่วนช่วงเวลาในการถ่ายที่ดีที่สุดคือ ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือดวงอาทิตย์ตก เนื่องจากแสงที่ได้จะมีความนุ่มนวล รวมทั้งมีแสงสีทองเป็นประกายสวยงามเป็นยิ่งนัก และนอกจากการถ่ายข้างนอก แล้วการถ่าย Portrait ในสตูดิโอก็ยังควบคุมแสงไฟได้ด้วยตนเองอีกด้วย

องค์ประกอบของภาพ

ถึงแม้จะเป็นการถ่ายภาพสไตล์ Portrait แต่ก็มีการถ่ายหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น ถ่ายบุคคลพร้อมวิวสวยๆ ซึ่งเป็นฉากหลัง หรือ การถ่ายเฉพาะตัวแบบเดี่ยวๆ เลย และสามารถถ่ายเฉพาะหน้าหรือถ่ายครึ่งตัวก็ได้เช่นกัน ตามพื้นฐานแล้วเทคนิคการจัดองค์ประกอบในการถ่าย Portrait ให้ดูดึงดูด คือ ให้ใช้กฎ 3 ส่วน หรือจุดตัด 9 ช่อง คือ ตัวแบบจะอยู่ตรงกลางบริเวณจุดนำสายตา เพราะจะทำให้ภาพเกิดความน่าสนใจ แต่ตรงนี้ก็ไม่ใช่สิ่งตายตัวอะไร เพราะบางทีการจัดองค์ประกอบของภาพก็ขึ้นอยู่กับผู้ถ่ายด้วยว่าต้องการแบบไหน ซึ่งบางครั้งก็ต้องใช้ประสบการณ์ในการถ่ายภาพ

10 Apr

การถ่ายภาพแบบ Silhouette คืออะไร

การถ่ายภาพแบบนี้ล้วนมีความแตกต่างอย่างชัดเจนทั้งในเรื่องของความสว่างและความมืดในภาพเดียวกัน โดยรูปร่างของตัวแบบในภาพต้องเป็นสีดำซึ่งตัดกับฉากหลังซึ่งเป็นแสงสว่าง ทำให้ภาพเกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มเสน่ห์รวมทั้งความน่าค้นหาลงไปในภาพอีกด้วย วันนี้เราจึงมีคำแนะนำอย่างง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพ Silhouette ออกมาดูดีมากขึ้นกันค่ะ

เลือกรูปร่างของตัวแบบที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

ตัวแบบทุกชนิดสามารถสร้างภาพ Silhouette ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะออกมาสวยงามไปหมด เพราะฉะนั้นควรหาวัตถุที่มีรูปร่างเห็นได้อย่างชัดจะดีกว่า เนื่องจากภาพแบบ Silhouette ตัวแบบจะไม่สื่อทางด้านสีหรือรายละเอียดแบบเจาะลึก แต่จะให้เห็นเป็นแค่วัตถุมืดๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าหาวัตถุที่มีรูปร่างโดดเด่น ก็จะทำให้ภาพมีความน่าสนใจและน่าดึงดูดมากขึ้น

หาแสงให้เจอ

การถ่ายภาพแบบ Silhouette จริงๆ แล้วทำได้ง่ายๆ เพียงแต่ต้องหาแสงซึ่งผ่านเข้ามาด้านหลังตัวแบบ อีกทั้งแสงจากฉากหน้าต้องสว่างน้อยกว่าฉากหลัง ปกติจะใช้แสงจากดวงอาทิตย์โดยเป็นแสงธรรมชาติที่หาเจอได้ง่าย รวมทั้งมีความสวยงามที่สุด ส่วนเวลาในการถ่าย คือช่วงก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตก นอกจากนี้ยังสามารถใช้แสงประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างก็ได้เช่นกัน

ปิดแฟลช

ถ้ากล้องอยู่ในโหมด Auto กล้องอาจสาดแฟลชออกมาเอง แล้วถ้ายิ่งถ่ายตอนแสงน้อย จะทำให้ตัวแบบสว่างจ้า จนกลายเป็นภาพถ่ายธรรมดา เพราะฉะนั้นก่อนถ่ายภาพควรปิดแฟลชก่อนทุกครั้ง

จัดองค์ประกอบของภาพ

สถานที่เหมาะแก่การถ่ายภาพแบบ Silhouette ต้องเป็นสถานที่เปิดโล่ง เช่น ชายหาด , ทุ่งหญ้า , ริมแม่น้ำ เป็นต้น เมื่อหาสถานที่และหาวัตถุ Silhouette ได้แล้ว ก็ถึงคราวจัดองค์ประกอบกันต่อ โดยให้ใช้ตัวแบบอยู่ฉากหน้า ส่วนท้องฟ้าเป็นฉากหลัง ถ้าให้ดีควรเป็นช่วงท้องฟ้าปลอดโปร่ง เพราะมันจะช่วยเพิ่มความสวยงามของภาพได้

ตัวแบบต้องมีความโดดเด่น

ถ้าต้องการถ่ายให้วัตถุหลายชนิดอยู่ในภาพเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงให้วัตถุแต่ล่ะชนิดอยู่ใกล้กันเกินไป หรืออย่าให้เงาของวัตถุเกิดความทับซ้อนกัน เช่น ถ้าในฉากประกอบไปด้วยคนหรือต้นไม้ ควรให้คนยืนห่างต้นไม้ หรือให้ยืนข้างๆ ต้นไม้ก็ได้ อย่าให้คนยืนอยู่หน้าต้นไม้ เนื่องจากเงาของคนกับต้นไม้จะซ้อนทับกัน ซึ่งทำให้ผู้ชมเกิดความสับสน สรุปแล้วถ้าจะถ่ายเน้นเฉพาะตัวบุคคลต้องให้ผู้ชม สามารถจดจำภาพนั้นได้อย่างไม่สับสน โดยการใช้โครงร่างของใบหน้าของมนุษย์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น จมูก ปาก แก้ม

3 Jan

เผย 10 วิธีถ่ายรูปกับครอบครัวให้ออกมาสวยดั่งใจ

การถ่ายรูปครอบครัวที่มีความพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งพ่อแม่ลูกและญาติคนอื่นๆ ถือเป็นภาพความทรงจำที่น่าประทับใจอยู่เสมอ แต่มันคงจะดีกว่าอย่างแน่นอนถ้าหากว่าเราสามารถถ่ายภาพนั้นออกมาให้ดูสวยงาม เรียกว่าเป็นทั้งความประทับใจและความสวยงามที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง ลองมาดูวิธีการถ่ายรูปครอบครัวให้สวยดังใจว่าต้องทำอย่างไร

10 วิธีถ่ายรูปกับครอบครัวให้ออกมาสวยดั่งใจ

  1. ถ้าถ่ายภาพเด็กไม่ต้องนับ – ปกติจังหวะการถ่ายภาพเป็นเรื่องสำคัญเราจึงมักมีการนับ 1, 2, 3 ก่อนถ่ายเสมอ แต่สำหรับเด็กๆ การนับแบบนี้กว่าจะถึง 3 พวกเขาอาจเปลี่ยนท่าทางไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องนับ
  2. อุปกรณ์พร้อม ควบคุมกล้องและอุปกรณ์ให้ดี – จะเป็นกล้องประเภทไหนไม่สำคัญแต่ต้องควบคุมกล้องให้เป็น พื้นฐานคือถ้าถ่ายที่มืดๆ ก็ปรับค่า ISO ให้สูงขึ้น นอกจากนี้พวกอุปกรณ์อย่างขาตั้งกล้อง แฟลช ก็ช่วยได้
  3. เลือกโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง – ยิ่งการถ่ายกับเด็กๆ ถ่ายไป 10 ใบอาจได้ภาพดีแค่ภาพเดียว ดังนั้นการใช้โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องจะใช้งานได้ดี
  4. ปัจจัยเรื่องมุมมอง – เด็กจะตัวเล็กกว่าผู้ใหญ่ ถ้ายืนถ่ายภาพจะเป็นมุมก้ม วิธีการแก้ไขง่ายๆ คือให้ย่อตัวลงแล้วจึงค่อยถ่ายจะทำให้ภาพครอบครัวสมดุล
  5. มีการใช้คำพูดประจำตัว – แบบที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ก็จำพวก say cheese เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้คนในครอบครัวและเด็กๆ ได้รู้ว่าเราพร้อมที่จะถ่ายรูปกันแล้วนะ ให้มองกล้อง อะไรทำนองนี้
  6. ใช้มุมเซลฟี่ – เป็นอีกมุมที่จะได้เห็นความน่ารักในแบบฉบับครอบครัว ยิ่งทุกวันนี้การเซลฟี่เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมาก มันจะได้อารมณ์ของความอบอุ่นจากคนในครอบครัวที่ต้องแนบชิดกันเพื่อให้พอดีกับกล้อง
  7. ซื้อกล้องของเล่นให้ลูก – คล้ายๆ กับว่าให้เด็กเข้าใจจากคนถูกถ่ายเป็นผู้ถ่าย เขาจะได้เรียนรู้ว่าการถ่ายรูปที่ดีเป็นอย่างไร ซึ่งเราสามารถสอนเบื้องต้นให้กับเขาได้อีกด้วย
  8. ดูผลงานตัวเองเสมอ – การจะได้รูปที่ดีทุกครั้งเมื่อทำการถ่ายเสร็จให้เช็คผลงานตัวเองเสมอว่าเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังทำให้คนโดนถ่ายได้รู้ว่าเขาควรเลือกมุมของตัวเองให้เป็นแบบไหนในการถ่ายครั้งต่อๆ ไป
  9. ฝึกซ้อมบ่อยๆ – ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า การฝึกซ้อมบ่อยๆ จะทำให้ถ่ายรูปครอบครัวได้สวยงามมากขึ้น รู้มุมกล้องต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น
  10. อย่าบังคับเด็กๆ ให้ถ่ายภาพ – เด็กบางคนมีนิสัยไม่เหมือนกัน บางคนชอบถ่ายรูปบางคนไม่ชอบ ก็ให้พวกเขาทำตัวแบบธรรมชาติแล้วเราก็จะได้รูปตามธรรมชาติที่น่าประทับใจมากกว่าการไปบังคับจิตใจพวกเขา
2 Jan

แนะนำเทคนิคการถ่ายรูปสำหรับเบื้องต้น

ทุกวันนี้การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ใช่เรื่องยาก นั่นเพราะด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามาทำให้เราสามารถเข้าใจในบทเรียนต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งกล้องถ่ายภาพทุกวันนี้ก็มีโหมดต่างๆ ให้ได้เลือกใช้งานกันมากมาย เรียกว่าง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ ด้วยเหตุนี้สำหรับใครก็ตามที่สนใจในการถ่ายรูปเทคนิคเบื้องต้นหากยังไม่รู้ว่าจะต้องถ่ายอย่างไรบ้างก็สามารถมาทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้รับรองว่าภาพถ่ายที่ออกมาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เทคนิคการถ่ายภาพเบื้องต้น

  1. เรื่องของรูรับแสง – ค่า f ที่เราเห็นกันบ่อยๆ เป็นค่าสำหรับการปรับความกว้างของรูรับแสง ยิ่งค่านี้น้อยเท่าไหร่รูรับแสงก็จะเปิดกว้างมากขึ้น ภาพที่ถ่ายออกมาก็จะดูสว่างมากขึ้น ช่วยละลายทำให้ภาพพื้นหลังดูสวยงาม เหมาะกับการถ่ายภาพแนวพอร์ตเทรด ยิ่งปรับค่า f ไว้สูงรูรับแสงก็จะแคบลงตามไปด้วยก็จะยิ่งช่วยทำให้ภาพทั้งภาพชัดเจนเพราะพื้นหลังไม่ได้ถูกเบลอตามไปด้วย
  2. ความเร็วของตัวชัตเตอร์ – ความเร็วชัตเตอร์เป็นการตั้งค่าระยะเวลาของตัวชัตเตอร์กล้องที่จะทำการเปิดให้แสงเข้ากล้องก่อนที่ม่านชัตเตอร์จะปิดลง การตั้งค่าชัตเตอร์ให้มีความเร็วสูงจะทำให้สามารถเก็บภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดเสมือนว่าวัตถุหลักนั้นหยุดนิ่ง แต่ถ้าหากว่าปรับความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าก็จะช่วยให้เห็นลักษณะการเคลื่อนไหวของวัตถุในภาพได้มากขึ้นตามไปด้วย
  3. เรื่องของความไวแสง หรือ ISO – ความไวแสงจัดเป็นหนึ่งระบบควบคุมแสงสว่างที่จะเข้ามากระทบกับเซนเซอร์ภาพ ยิ่งมีการปรับค่า ISO สูงมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้ภาพโดยรวมดูสว่างมากขึ้น ค่อนข้างเหมาะกับการถ่ายภาพที่แสงน้อย แต่ปัญหาก็คือจะมี noise หรือสัญญาณรบกวนเด่นชัดอยู่บนภาพไปทั่ว ส่วนการปรับค่า ISO ให้ต่ำจะเหมาะกับการถ่ายภาพในที่สว่างหรือการถ่ายภาพตอนกลางวันมากกว่า เนื่องจากว่าจะช่วยปรับความสว่างของภาพให้ดูเนียนตามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

สิ่งเหล่านี้เป็นเทคนิคการถ่ายรูปเบื้องต้นง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปเรียนรู้ได้โดยเฉพาะมือใหม่หัดถ่ายที่ยังไม่ค่อยรู้ว่าควรต้องทำอะไรบ้าง การเรียนรู้พื้นฐานการถ่ายรูปจึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การถ่ายรูปของคุณมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้พื้นฐาน 3 ปัจจัยหลักๆ นี้จึงถือว่าเป็นการเรียนรู้เบื้องต้นในการทำให้ภาพถ่ายของคุณจะออกมาดีมากขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ ทำการเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆ เชื่อได้ว่าจะทำให้การถ่ายภาพของทุกๆ คนดีขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน และจะทำให้มีกำลังใจในการถ่ายภาพต่อไปด้วย

31 Dec

เทคนิคที่จะเปลี่ยนตัวคุณให้เป็นช่างภาพมืออาชีพ

การจะเป็นช่างภาพมืออาชีพไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเป็นได้ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เหนือสิ่งอื่นใดเรื่องของความตั้งใจที่จะฝึกฝนเรียนรู้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะทำให้คนเราสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดในด้านต่างๆ ได้ แต่นอกจากการฝึกฝนเรียนรู้แล้วการเข้าใจในเทคนิคต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำด้วย

เทคนิคการเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพ

  1. ฝึกการมองแสง – จริงๆ แล้วสิ่งแรกของการจะเป็นช่างภาพที่ดีต้องรู้จักการมองแสงก่อน แม้จะเก่งด้านกล้องขนาดไหนแต่ถ้าหากมองแสงไม่เป็นทุกอย่างก็จบ การพิจารณาแสงคือต้องดูเวลาในตอนจะถ่าย แสงแรงหรือเบาแค่ไหน มาจากทิศไหน เป็นต้น เนื่องจากว่าหากแสงเปลี่ยนไปนิดเดียวความรู้สึกของภาพก็เปลี่ยนทันที
  2. ทำความคุ้นเคยกับระบบกล้อง – ต้องฝึกตั้งค่ารูปแบบต่างๆ ของกล้องให้เป็นยิ่งสมัยนี้มีอะไรต่างๆ มากมาย ต้องพยายามเรียนรู้ให้หมดแล้วทดลองใช้เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าการตั้งแค่แบบไหนคืออะไรกันแน่
  3. จับภาพด้วยความใจเย็น อย่ารีบร้อน – หลายคนเวลาเจออะไรถูกใจก็มักรีบหยิบกล้องมาถ่ายโดยไม่โฟกัสวัตถุหรือจุดเด่นอะไรทั้งสิ้น ผลคือรูปไร้อารมณ์ ไร้ราคาสุดๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ควรเปลี่ยนตัวเองให้จับภาพอย่างใจเย็น โฟกัสตามที่ได้ศึกษามาจะทำให้ภาพสวยมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
  4. ใส่ใจกับเรื่องสี – ควรนำภาพวงจรสีมาทำการศึกษาให้เข้าใจว่าสีไหนกลมกลืนกัน สีไหนตัดกัน สีแทนความรู้สึกอย่างไร สีโทนอุ่น โทนเย็น เพื่อให้เกิดความเข้าใจในโทนสีของภาพที่ถ่ายมากขึ้น
  5. ฝึกการใช้โปรแกรมสำหรับแต่งภาพ – สมัยนี้การแต่งภาพเป็นเรื่องสำคัญ การถ่ายภาพเก่งอย่างเดียวอาจสู้คนที่ปรับภาพเก่งไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้โปรแกรมสำหรับการแต่งภาพต่างๆ ก็ต้องศึกษาเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom เป็นต้น
  6. ลองพิมพ์ภาพใส่กรอบ – มุมมองจากภาพในคอมพิวเตอร์อาจไม่ได้สีที่ถูกต้องและความรู้สึกที่แตกต่าง การอัดภาพออกมาดูหรือใส่กรอบเก็บไว้จะยิ่งช่วยให้เข้าใจภาพได้มากขึ้นว่าต้องเป็นอย่างไรเมื่อถ่ายครั้งต่อไป
  7. ทดลองถ่ายภาพจากหลายสถานที่ – แต่ละพื้นที่ย่อมมีมุมมองในการถ่ายภาพต่างกันออกไป บางชอบถ่ายเฉพาะพิธีการหรือช่วงเวลาสำคัญแต่จริงๆ แล้วแค่เราผ่านไปในสถานที่แปลกตาเราก็สามารถหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายได้เพื่อเป็นการเรียนรู้มุมกล้อง แสง ไปเรื่อยๆ
  8. พยายามเรียนรู้ตลอด – การเรียนรู้จะช่วยทำให้กลายเป็นช่างภาพมืออาชีพได้ไม่ยาก พยายามศึกษาในสิ่งต่างๆ ที่เราไม่เคยรู้จะยิ่งช่วยให้เป็นคนที่มีความชำนาญในการถ่ายแบบรอบด้าน
29 Dec

เทคนิคการถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ ให้เห็นผลทันตาเห็น

สมัยนี้การถ่ายรูปเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป อาหาร คน สัตว์ สิ่งของ หรืออื่นๆ แต่ในปี 2016 – 2017 นี้ เทคนิคการถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น การถ่ายรูปแบบหน้าชัดแต่หลังเบลอ โดยเฉพาะสาวๆต่างต้องการถ่ายรูปแบบนี้มาก เพราะรู้สึกความสวยพุ่งขึ้นอีก 50 % เลยทีเดียว เราไปดูเทคนิคง่ายๆกันดีกว่าว่าไอเจ้าหน้าชัดหลังเบลอเขาทำกันยังไง

ตามหลักพื้นฐานมีเทคนิค ดังนี้

  • ถ้าเปิดหน้ากล้องหรือ f-stop เลขน้อย ฉากหลังยิ่งเบลอง่าย
  • ยิ่งวัตถุเข้าใกล้เลนส์มากเท่าไหร่ ระยะชัดยิ่งต่ำ และทำให้ฉากหลังเบลอง่ายขึ้น
  • ถ้าใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมาก ฉากหลังเบลอง่าย
  • ยิ่งตัวแบบห่างจากฉากหลังมากเท่าไหร่ ฉากหลังเบลอง่ายขึ้น

จำไว้ว่า f-stop เลขน้อย ยิ่งเบลอ

ยิ่งค่ารูรับแสง f น้อยเท่าไร หลังจะยิ่งเบลอหลังได้มากเท่านั้น แต่ถ้าเป็นคนเล่นกล้องแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็น DSRL หรือ Mirrorless ก็จะรู้ว่ายิ่งเลนส์มีค่ารูรับแสงเลขน้อย ราคาเลนส์ก็มากตามไปด้วย แต่จริงๆแล้วในตัวกล้อง หรือแม้แต่กล้องโทรศัพท์มือถือก็สามารถปรับรูรับแสงได้เช่นเดียวกัน

ยิ่งวัตถุเข้าใกล้เลนส์มากเท่าไหร่ ระยะชัดจะยิ่งต่ำ และทำให้ฉากหลังเบลอง่ายขึ้น

ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นโคตรของขั้นพื้นฐานเลย คือให้เอาวัตถุไปตั้งในพื้นที่โล่งๆ ยิ่งวัตถุห่างจากฉากมากเท่าไหร่ความเบลอก็จะมากขึ้นตามไปด้วยจ้า

ถ้าใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมาก ฉากหลังเบลอง่าย

ซูมเข้าไปซูมเข้าไปให้มันหลุดโลก ในวงการเขาจะเรียกว่าระยะเลนส์ คือถ้าเลขระยะเลนส์ยิ่งเยอะ หลังจะยิ่งเบลอได้มากแต่ถ้าเราไม่มีเงินไปซื้อเลนส์หลายระยะมาใช้ก็ใช้วิธีซูมนี่ล่ะจ้า ยิ่งซูมเยอะยิ่งเบลอเยอะตามไปด้วยนั่นเอง

ยิ่งตัวแบบห่างจากฉากหลังมากเท่าไหร่ ฉากหลังเบลอง่ายขึ้น

ความจริงวันนี้ วัตถุยิ่งเล็ก ยิ่งเบลอได้เยอะ เป็นความจริงที่มีมาอย่างยาวนานแล้ว โดยข้อนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับข้อ 2 อยู่บ้าง ถ้าวัตถุเล็กเท่าไหร่ ฉากหลังก็เหลือมากเท่านั้น และทำให้มีโอกาสเบลอมากกว่านั่นเอง ถ้าไม่เชื่อให้ลองเอาวัตถุ 2 ชิ้นที่มีขนาดไม่เท่ากันมาเทียบดู และคุณจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ

เป็นยังไงคะกับ 4 วิธีอันโคตรง่ายลองเอาไปใช้กันดูและจะพบกับผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจอย่างแน่นอน

28 Dec

เทคนิคการถ่ายรูปธรรมชาติต่างๆ

การถ่ายรูปธรรมชาติ ถือเป็นสิ่งที่นักถ่ายรูปและนักท่องเที่ยวจำนวนมากชื่นชอบไม่น้อย ด้วยความที่พื้นที่ตามธรรมชาติเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะมาเห็นกันได้บ่อยๆ ประกอบกับความงดงามของธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเองยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้การถ่ายรูปธรรมชาติจึงควรมีเทคนิคดีๆ เพื่อที่จะให้ได้รูปสวยงามเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ เมื่อเป็นเช่นนี้ลองมาทำความเข้าใจกับเทคนิคการถ่ายรูปธรรมชาติที่จะช่วยให้คุณถ่ายได้สวยมากกว่าเก่า

เทคนิคดีๆ สำหรับการถ่ายรูปธรรมชาติ

  1. จัดองค์ประกอบให้เหมาะสม – คิดง่ายๆ ว่ารูปนี้ต้องการถ่ายอะไร ภูเขา, น้ำตก, ทะเล เพื่อที่จะได้โฟกัสภาพออกไปได้อย่างถูกจุด ให้รูปที่ถ่ายเกิดความเด่นชัด ไม่ใช่การถ่ายเก็บภาพมั่วๆ จะทำให้ภาพดูไม่น่าสนใจ ส่วนเรื่องแสงก็สำคัญยิ่งภาพภูเขาทิศทางของแดดเวลาอยู่ในภูเขาอาจเบี้ยวๆ จากการถูกบังโดยยอดเขาจึงต้องเลือกมุมดีๆ
  2. เลือกเวลาถ่ายให้เหมาะสม – การถ่ายรูปจากธรรมชาติช่วงเวลาที่เหมาะสมส่วนมากจะเป็นตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้นและลง เนื่องจากแสงที่ได้จะสวยงามพอดี แต่ก็จำเป็นต้องหาจุดโล่งๆ ที่ไม่มีอะไรมาบังแสงด้วย
  3. Foreground หรือ Background เป็นสิ่งสำคัญ – จริงๆ ก็คล้ายกับข้อแรกคือเมื่อเรามองไปที่รูปแล้วต้องเห็นเด่นชัดว่ารูปนี้ต้องการสื่อถึงอะไร ต้องเลือกให้ได้แล้วโฟกัสไปตรงจุดนั้น
  4. เปลี่ยนมุมถ่ายที่แตกต่าง – การถ่ายภาพธรรมชาติแค่มุมเดียวก็จะทำให้มองเห็นภาพแค่ด้านเดียว แต่ถ้าหากต้องการถ่ายภาพเดียวกันแต่เปลี่ยนมุมมองในการถ่ายก็จะทำให้ได้ภาพเดิมแต่มีหลายมุมมองมากยิ่งขึ้น
  5. อาจมีคนแทรกเข้ามาบ้าง – แม้จะเป็นการถ่ายรูปวิวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคนเข้ามาในภาพไม่ได้ ในทางกลับกันหากถ่ายติดภาพคนเข้าไปด้วยจะเป็นการช่วยจัดองค์ประกอบให้มีจุดเด่นมากขึ้น มีเรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น
  6. เลือกถ่ายภาพที่มีแหล่งน้ำ – การถ่ายภาพที่มีน้ำอยู่ในเฟรมจะช่วยทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำแบบไหนก็ตามแต่ยิ่งถ้าหากมีต้นไม้ล้อมรอบแล้วด้วยรูปก็จะยิ่งสวยงามกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
  7. ใช้การถ่ายคร่อมและซ้อนรูป – อาจต้องใช้โปรแกรมแต่งภาพเข้าช่วยหน่อยสำหรับคนเที่ยวภูเขาเพราะสภาพแสงจะต่างกันมาก ทำให้เก็บรูปช็อตเดียวลำบากจึงต้องถ่ายหลายช็อตในมุมเดียวกันแต่แสงต่างกันจากนั้นค่อยซ้อนภาพในโปรแกรม
  8. อย่าใช้รูรับแสงขนาดใหญ่เกินไป – จะทำให้กล้องเก็บรายละเอียดไม่ครบถ้วน รูปไม่ชัด ทำให้ดูขาดองค์ประกอบอันน่าสนใจไป ควรเลือกประมาณ f/8-f/16 จะเป็นความเหมาะสมสำหรับการถ่ายรูปธรรมชาติ
28 Dec

เทคนิคการถ่ายรูปธรรมชาติต่างๆ

การถ่ายรูปธรรมชาติ ถือเป็นสิ่งที่นักถ่ายรูปและนักท่องเที่ยวจำนวนมากชื่นชอบไม่น้อย ด้วยความที่พื้นที่ตามธรรมชาติเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะมาเห็นกันได้บ่อยๆ ประกอบกับความงดงามของธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเองยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้การถ่ายรูปธรรมชาติจึงควรมีเทคนิคดีๆ เพื่อที่จะให้ได้รูปสวยงามเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ เมื่อเป็นเช่นนี้ลองมาทำความเข้าใจกับเทคนิคการถ่ายรูปธรรมชาติที่จะช่วยให้คุณถ่ายได้สวยมากกว่าเก่า

เทคนิคดีๆ สำหรับการถ่ายรูปธรรมชาติ

  1. จัดองค์ประกอบให้เหมาะสม – คิดง่ายๆ ว่ารูปนี้ต้องการถ่ายอะไร ภูเขา, น้ำตก, ทะเล เพื่อที่จะได้โฟกัสภาพออกไปได้อย่างถูกจุด ให้รูปที่ถ่ายเกิดความเด่นชัด ไม่ใช่การถ่ายเก็บภาพมั่วๆ จะทำให้ภาพดูไม่น่าสนใจ ส่วนเรื่องแสงก็สำคัญยิ่งภาพภูเขาทิศทางของแดดเวลาอยู่ในภูเขาอาจเบี้ยวๆ จากการถูกบังโดยยอดเขาจึงต้องเลือกมุมดีๆ
  2. เลือกเวลาถ่ายให้เหมาะสม – การถ่ายรูปจากธรรมชาติช่วงเวลาที่เหมาะสมส่วนมากจะเป็นตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้นและลง เนื่องจากแสงที่ได้จะสวยงามพอดี แต่ก็จำเป็นต้องหาจุดโล่งๆ ที่ไม่มีอะไรมาบังแสงด้วย
  3. Foreground หรือ Background เป็นสิ่งสำคัญ – จริงๆ ก็คล้ายกับข้อแรกคือเมื่อเรามองไปที่รูปแล้วต้องเห็นเด่นชัดว่ารูปนี้ต้องการสื่อถึงอะไร ต้องเลือกให้ได้แล้วโฟกัสไปตรงจุดนั้น
  4. เปลี่ยนมุมถ่ายที่แตกต่าง – การถ่ายภาพธรรมชาติแค่มุมเดียวก็จะทำให้มองเห็นภาพแค่ด้านเดียว แต่ถ้าหากต้องการถ่ายภาพเดียวกันแต่เปลี่ยนมุมมองในการถ่ายก็จะทำให้ได้ภาพเดิมแต่มีหลายมุมมองมากยิ่งขึ้น
  5. อาจมีคนแทรกเข้ามาบ้าง – แม้จะเป็นการถ่ายรูปวิวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคนเข้ามาในภาพไม่ได้ ในทางกลับกันหากถ่ายติดภาพคนเข้าไปด้วยจะเป็นการช่วยจัดองค์ประกอบให้มีจุดเด่นมากขึ้น มีเรื่องราวน่าสนใจมากขึ้น
  6. เลือกถ่ายภาพที่มีแหล่งน้ำ – การถ่ายภาพที่มีน้ำอยู่ในเฟรมจะช่วยทำให้เกิดความรู้สึกสดชื่น เย็นสบาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำแบบไหนก็ตามแต่ยิ่งถ้าหากมีต้นไม้ล้อมรอบแล้วด้วยรูปก็จะยิ่งสวยงามกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
  7. ใช้การถ่ายคร่อมและซ้อนรูป – อาจต้องใช้โปรแกรมแต่งภาพเข้าช่วยหน่อยสำหรับคนเที่ยวภูเขาเพราะสภาพแสงจะต่างกันมาก ทำให้เก็บรูปช็อตเดียวลำบากจึงต้องถ่ายหลายช็อตในมุมเดียวกันแต่แสงต่างกันจากนั้นค่อยซ้อนภาพในโปรแกรม
  8. อย่าใช้รูรับแสงขนาดใหญ่เกินไป – จะทำให้กล้องเก็บรายละเอียดไม่ครบถ้วน รูปไม่ชัด ทำให้ดูขาดองค์ประกอบอันน่าสนใจไป ควรเลือกประมาณ f/8-f/16 จะเป็นความเหมาะสมสำหรับการถ่ายรูปธรรมชาติ